เคยสงสัยกันไหมครับ? ทำไมช่วงนี้มันมีแต่เกมจีนธีมย้อนยุคเต็มไปหมด เอาจริง ๆ ควรเริ่มตั้งแต่คำว่า ‘เกมจีน’ ที่ทุกวันนี้มีเกมใหม่ ๆ ออกมาเกือบทุกเดือน ทั้งแนว MMORPG, Single Player หรือ AAA ก็ตาม และนี่สะท้อนได้ว่า ผู้พัฒนาชาวจีนกำลังอยากถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองสู่สายตาชาวโลก ไม่ต่างอะไรกับวงการภาพยนตร์เลย
ถ้าหากมองในมุมของเกมเมอร์คนหนึ่ง ผมกลับคิดว่าภาพมันดูเหมือนจะ ‘ล้น’ ตลาดมากในตอนนี้ ส่วนตัวผมไม่ได้ติดขัดอะไรกับการดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีนหรอกนะครับ จริงอยู่ที่ธีมย้อนยุคกับเกมจีนมีมานานแล้ว ก่อน Black Myth: Wukong ด้วยซ้ำ แต่ปีนี้เรียกได้ว่าเปิดตัวกันรัว ๆ จนน่าตกใจ
วันนี้ผมเลยพยายามหาข้อมูล และเรียบเรียงเป็นการตอบคำถามว่า ”ทำไมเกมจีนถึงมีแต่ธีมย้อนยุคเต็มไปหมดในยุคนี้”

คลังสมบัติทางวัฒนธรรมที่ไม่มีวันหมด
จีนมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปี เต็มไปด้วยเรื่องราว, ตำนาน, และวรรณกรรมที่กลายเป็น ‘วัตถุดิบ’ ชั้นดีสำหรับการสร้างเกม ผู้พัฒนาไม่จำเป็นต้องคิดพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่สามารถนำเอาเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยอยู่แล้วมาดัดแปลงให้ทันสมัยขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวจาก สามก๊ก, ไซอิ๋ว, หรือแนวคิดปรัชญาจากลัทธิเต๋าและขงจื๊อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเหมือน ‘ทรัพย์สินทางปัญญา’ ที่มีค่ามหาศาล และเป็นความได้เปรียบที่ผู้พัฒนาในภูมิภาคอื่นไม่มี
ว่ากันตามตรง ถึงแม้อุตสาหกรรมเกมในจีนจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่นี่เป็นช่วงเริ่มต้นของการสร้างเกมฟอร์มยักษ์ จึงไม่แปลกที่เราจะได้เห็นแต่เกมที่เต็มไปด้วยการสอดแทรกวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศตัวเอง พูดให้ง่าย ๆ ก็คือ วัฒนธรรมของพวกเขามันเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจมากที่สุด และง่ายที่สุดที่จะนำเสนอต่อสายตาชาวโลก นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราได้เห็น ‘ไซอิ๋ว’ ในหลากหลายเวอร์ชัน

เมื่อภาครัฐหยิบ ‘เกม’ มาเป็นอาวุธซอฟต์พาวเวอร์
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมให้บริษัทและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ใช้สื่อสมัยใหม่เพื่อเผยแพร่ ‘ซอฟต์พาวเวอร์’ หรืออำนาจทางวัฒนธรรมออกไปสู่สากล ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมเกมด้วย การพัฒนาเกมที่เน้นธีมย้อนยุคหรือประวัติศาสตร์จึงสอดคล้องกับนโยบายนี้ ทำให้ผู้พัฒนาได้รับแรงหนุนทั้งในแง่ของเงินทุนและนโยบายการทำตลาด ส่งผลให้การสร้างเกมแนวนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อทั้งนโยบายและกระแสชาตินิยมเริ่มก่อตัวมากขึ้น สตูดิโอผู้พัฒนาเกมหลายเจ้าจึงพร้อมที่จะหยิบนำวัฒนธรรมของพวกเขาใส่ลงไปในเกมให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

ตลาดภายในประเทศที่ใหญ่เกินกว่าจะมองข้าม
แม้เกมจีนจะเริ่มตีตลาดโลก แต่ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ก็ยังมองตลาดในประเทศเป็นหลัก ซึ่งผู้เล่นในจีนเองก็คุ้นเคยและชื่นชอบเนื้อหาแนวย้อนยุคหรือกำลังภายในอยู่แล้ว ทำให้เกมประเภทนี้มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มต้น การพัฒนาเกมแนวนี้จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการสร้างเกมแนวใหม่ที่ไม่คุ้นเคย และทำให้การลงทุนมีความคุ้มค่ามากกว่า
เรื่องนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นกับเกมใหม่อย่าง Where Winds Meet ที่เลือกเปิดตัวในประเทศจีนก่อนตั้งแต่ปลายปี 2024 และเพิ่งจะเปิดตัวทั่วโลกไม่นานมานี้ ซึ่งต่างจากเกมฟอร์มใหญ่ทั่วไปที่มักจะโปรโมตผ่านสื่อใหญ่ระดับโลกอย่าง IGN ตั้งแต่แรก

การแข่งขันที่ผลักดันให้คุณภาพก้าวกระโดด
เมื่อ Black Myth: Wukong ประสบความสำเร็จและไปได้ไกลถึงเวทีงานเกมระดับโลก ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถสร้างเกม AAA ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับเกมจากฝั่งตะวันตกได้ และที่สำคัญ เกมนี้ยังหยิบเอาวรรณกรรมที่หลายคนทั่วโลกรู้จักมาใช้ได้สำเร็จ นี่คือจุดประกายสำคัญที่ทำให้ผู้พัฒนาจากจีนมั่นใจและเชื่อว่าพวกเขาสามารถทำได้ เราจึงเริ่มเห็นการสร้าง IP ใหม่ ๆ รวมไปถึงการนำของที่มีอยู่แล้วอย่างเกมมือถือหรือ MMORPG มาสร้างเป็นเกมฟอร์มยักษ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ยังคงใช้ธีมย้อนยุคที่ ‘ขายได้’
เมื่อ ‘ความล้น’ กลายเป็นข้อกังขาของเกมเมอร์
ในมุมของชุมชนเกมเมอร์ ผมเองก็ยังไม่ค่อยเห็นใครมีปัญหาเรื่องนี้เท่าไร แต่ลองคิดดูสิครับ ถ้าทิศทางของเนื้อหามันยังย่ำอยู่กับที่ ไม่ประวัติศาสตร์ ก็แฟนตาซี ซึ่งทั้งหมดมักถูกครอบด้วยธีม ‘ย้อนยุค’ มันคงจะน่าเบื่อและช้ำไม่น้อย ฉะนั้นความน่าสนใจที่จะสร้างแรงดึงดูดก็คงเป็น ‘อะไรใหม่ ๆ’ หรืออาจเป็นธีมย้อนยุคที่แตกต่างจนโดดเด่นกว่าเกมอื่น ๆ
ผมไม่มองว่ามันเป็นเรื่องแปลก เพราะในฝั่งตะวันตกเอง ยุคก่อนเราก็มีแต่เกมธีม ‘ยุคกลาง’ ออกมาเต็มไปหมด ทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เมื่อการเดินทางของอุตสาหกรรมเกมมันเติบโตขึ้น มันก็มีอะไรใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ เกมจีนเองก็เริ่มมีสัดส่วนธีมเกมใหม่ ๆ อย่าง Tides of Annihilation ที่พัฒนาโดยคนจีนแต่กลับเป็นเกมที่อ้างอิงตำนานอาร์เธอร์ ถึงแม้จะเป็นสัดส่วนที่น้อย แต่ก็เป็นสัญญาณว่าเราคงได้เห็นความหลากหลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ครับ
EqualOcean. Chinese Games Going Overseas, not Just Wukong.
People’s Daily Online. Digitalization a new frontier for globalizing Chinese culture.
The Diplomat. China’s Soft Power Play: How Video Games Are Boosting Beijing’s Global Influence.
ResearchGate. (PDF) “Black Myth: Wukong”: The Internationalization of Chinese Games.