Gaming Inside

เมื่อเกม AA ไม่ได้ด้อยกว่าอีกต่อไปเส้นแบ่งระหว่างเกม AAA กำลังเลือนหาย

หลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับหัวข้อนี้ เอาเป็นว่านี่คือบทความที่เขียนจากมุมมองของผม ในฐานะเกมเมอร์ที่เล่นเกมมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 จนถึงปัจจุบัน มันเป็นช่วงเวลาที่ความรู้สึกของเกมเมอร์เริ่มเปลี่ยนไป ทิศทางของตลาดเกมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผมเริ่มรู้สึกว่าเส้นแบ่งของ AAA กับ AA มันเริ่มเลือนลางจนแยกไม่ออก ไม่สามารถแยกมันได้จากตัวเกม แต่เป็นข้อมูลเบื้องหลังของทีมผู้สร้าง

ยุคสมัยแห่งการแบ่งขั้ว AAA vs AA
เราคงไม่ต้องมานั่งถกกันแล้วล่ะครับว่านิยามของเกม AAA คืออะไร เพราะในยุคก่อนหน้าช่วงปี 2000 มันชัดเจนมาก ด้วยจำนวนงบประมาณมหาศาล ทีมพัฒนาขนาดใหญ่ กับเกมขนาดเล็กที่ถูกนิยามว่าเป็น AA โดยมีงบประมาณกลาง ๆ และทีมพัฒนาเล็กกว่า นั่นทำให้เส้นแบ่งมันชัดเจนและเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว ซึ่งยุคนี้มันต่างออกไป

เทคโนโลยีเขย่าอุตสาหกรรม เส้นแบ่งเริ่มเบลอ
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่เดินหน้าและพัฒนาไปทุก ๆ เสี้ยวนาที ไม่ว่าจะเป็นวงการภาพยนตร์ หรือแม้แต่เกม ขอบเขตของกราฟิกในเกมที่สมจริงอาจจะเดินไปไกลแล้ว แต่ปัจจัยที่สำคัญตามมาคือ “การเข้าถึง” และ “ราคาที่ต้องจ่าย” ซึ่งอาจไม่ได้เหมาะกับทีมผู้พัฒนาที่มีงบจำกัด จนกระทั่งวันที่โลกเรามี Unreal Engine, Photogrammetry และ Motion Capture ที่ราคาถูกลง ส่งผลให้ทีมเล็ก ๆ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงเกม AAA ได้มากขึ้น

ตัวอย่างที่ชัดมาก ๆ ต้องยกให้อุตสาหกรรมเกมในจีนและเกาหลี ที่พวกเขามีของอยู่แล้ว มี IP ที่ถูกหยิบยกมาจากเกม MMO ที่พวกเขาสั่งสมไว้ นำมาพัฒนาต่อผ่าน Unreal Engine ซึ่งศักยภาพของผู้พัฒนาเหล่านี้ก็มีอยู่เต็มเปี่ยม เราจึงได้เห็นเกมที่มีกลิ่นใกล้กับ AAA ออกมาเยอะมากในปีนี้

9 Tips for Starting Clair Obscur: Expedition 33

ปีทองของเกม AA ขนาดเล็กแต่คุณภาพใหญ่
มาถึงตรงนี้ ผมว่าหลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าผมจะเอ่ยถึงเกมอะไร… Clair Obscur: Expedition 33 เกมที่ดีที่สุดที่ผมเล่นในปีนี้ (ณ ปัจจุบัน) นี่คืออีกหนึ่งเกมที่สร้างความเข้าใจผิดให้หลายคนว่ามันคือเกมโปรดักชันระดับ AAA ไม่ใช่เพียงเพราะเทคโนโลยีที่นำพาพวกเขาไปถึงจุดนั้น แต่เพราะความสามารถที่ล้นด้วยประสบการณ์ของทีม Sandfall Interactive ที่ทำการบ้านกันมาอย่างดีจนน่าชื่นชม พวกเขาใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ของตัวเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่เสียเปล่า

ยังมีอีกหลายปีที่ผ่านมา ที่ผมรู้สึกประทับใจกับงานภาพและประสิทธิภาพของเกม ทั้ง Stray เกมอินดี้ที่เราสวมบทบาทเป็นเจ้าเหมียว หมุดหมายที่ย้ำเตือนเราว่า งานภาพอินดี้มันไปไกลขนาดนี้แล้วหรอ? มันไม่ใช่แค่งานภาพมุมบน มุมข้างแบบ Side Scroll หรือภาพแบบ 2D อีกต่อไป อีกตัวอย่างที่ดีคือ Lies of P จากทีมผู้สร้างเกาหลีที่หลงใหลในแนว Souls-like และขัดเกลาคุณภาพเกมออกมาได้ดีไม่แพ้เกมใหญ่ ๆ เลย

แน่นอนว่ามันไม่ได้ดีทุกเกมครับ เกม AA ที่ผู้สร้างพยายามใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด หลอกผู้เล่นด้วยงานโปรโมตหรือภาพกราฟิกที่ลวงตา แต่ข้างในกลับเต็มไปด้วยเกมเพลย์ที่แย่และเลวร้าย กรณีแบบนี้ก็มีเยอะไม่แพ้เกมที่ดีเลย และสุดท้าย การเลือกซื้อเกมโดยใช้วิจารณญาณ ก็ยังคงเป็นวิธีที่ผมแนะนำ

ความหลงใหลของผู้สร้างที่ถูกดูดกลืนในองค์กรใหญ่
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกมระดับ AAA จากค่ายเกมยักษ์ใหญ่ ไม่ใช่ทางเลือกที่ “เพลย์เซฟ” อีกต่อไป คือการสูญเสียเม็ดเงินมหาศาลที่กลายเป็นเรื่องปกติขององค์กรใหญ่ พร้อมกับการ Layoff พนักงานจำนวนมาก โปรเจกต์ระดับใหญ่ที่ใช้งบสูง มักจะมาพร้อมความคาดหวังมหาศาล เพราะพวกเขา ‘ล้มไม่ได้’ ส่งผลให้การพัฒนาเกมต้องเพลย์เซฟตามสูตรสำเร็จ ขาดการทดลอง หรือการออกนอกกรอบ ผลก็คือ IP ใหม่ ๆ น้อยลง และหันไปพึ่งพา Remake หรือ Remaster เกมเก่าแทน เพราะการเสี่ยงกับสิ่งใหม่ มันไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป

ทางเลือกที่น่าสนใจ กับยุคที่ราคาแพงหูฉีก
“เกมแพงแต่ยังขายได้ แต่หากคุณคิดว่ามันแพง แปลว่าคุณไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของเขา” เป็นประโยคที่จิกกัดผมเสมอ และมันก็จริง! อาจด้วยเหตุผลเรื่องค่าครองชีพที่แตกต่าง ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราคาจะไม่เป็นปัญหา ถ้าคุณอยากเล่นเกมนั้นจริง ๆ แต่ถ้ากำลังซื้อของเราไม่ไหว เกม AA ที่ผมกล่าวถึงข้างต้น อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และรอเล่นเกม AAA ในวันที่มันลดราคาก็ยัง Win Win ได้ คุณสามารถเล่นเกม Clair Obscur: Expedition 33 ในราคาเพียง 1,100 บาท และยังมีเกม AA อีกมากที่ผมรู้สึกเพลิดเพลินไม่แพ้กับเกม AAA เลย และหวังว่าเส้นแบ่งนี้จะจางลงเรื่อย ๆ จนพวกเราสามารถเล่นเกม AA ที่ราคาเบา แต่คุณภาพเกินตัวได้อีกต่อไป

administrator
Art Director, UX/UI Designer, Voice Actor